วิธีรีบูต Linux ผ่าน SSH (ใช้งานได้จริง)
บทความนี้อธิบายวิธี รีบูตเครื่อง Linux ผ่าน SSH อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และเหมาะกับการใช้งานบน VPS / Dedicated / Server โฮสติ้ง โดยเน้นคำสั่งที่ใช้ได้จริง
เงื่อนไขก่อนเริ่ม
- ต้องเชื่อมต่อ SSH ได้ (เช่น PuTTY, Terminal, MobaXterm)
- ต้องมีสิทธิ์ root หรือ user ที่ใช้
sudoได้ - ใช้ได้กับ Ubuntu, Debian, AlmaLinux, Rocky, CentOS, CloudLinux
วิธีที่ 1: รีบูตทันที (แนะนำ ใช้บ่อยสุด)
reboot
หมายเหตุ: ใช้ได้เมื่อ login เป็น root เครื่องจะรีบูตทันที
วิธีที่ 2: รีบูตผ่าน sudo (กรณีไม่ได้เป็น root)
sudo reboot
ระบบจะถามรหัสผ่านของ user เหมาะกับเครื่องที่ปิด root login
วิธีที่ 3: ใช้คำสั่ง shutdown (ปลอดภัย ควบคุมเวลาได้)
รีบูตทันที
shutdown -r now
รีบูตหลังจาก 5 นาที
shutdown -r +5
รีบูตตามเวลาที่กำหนด (เช่น 01:30)
shutdown -r 01:30
ข้อดี: ระบบจะประกาศแจ้งผู้ใช้ที่กำลังใช้งานอยู่ และช่วยลดความเสี่ยงไฟล์เสียหายจากการปิดกระทันหัน
วิธีที่ 4: รีบูตผ่าน systemctl (Linux รุ่นใหม่)
systemctl reboot
หรือถ้าไม่ใช่ root
sudo systemctl reboot
เหมาะกับ: Ubuntu 18+ / AlmaLinux / Rocky / CloudLinux 8–9
วิธีที่ 5: รีบูตแบบบังคับ (ใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉิน)
reboot -f
หรือ
echo b > /proc/sysrq-trigger
คำเตือน: วิธีนี้เป็นการบังคับรีบูตทันที ไม่ปิดบริการต่าง ๆ อย่างปลอดภัย และมีโอกาสทำให้ระบบไฟล์เสียหาย ควรใช้เฉพาะตอนเครื่องค้างจริง ๆ
แนะนำให้ตรวจสอบก่อนรีบูต
ดูว่าใคร login อยู่
who
ดูโหลดเครื่อง
uptime
เช็คบริการสำคัญ (ตัวอย่าง)
systemctl status mysql
systemctl status nginx
systemctl status httpd
หลังพิมพ์คำสั่งแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
- SSH จะหลุดทันที (ปกติ)
- รอประมาณ 1–3 นาที
- เชื่อมต่อ SSH ใหม่อีกครั้ง
ถ้าต่อไม่ได้ ให้ตรวจ IP, Firewall หรือเข้าไปดู Console จากผู้ให้บริการ VPS
คำแนะนำสำหรับเซิร์ฟเวอร์โฮสติ้ง
- แนะนำใช้
shutdown -r nowหรือsystemctl rebootเป็นหลัก - หลีกเลี่ยง
reboot -fถ้าไม่จำเป็น - ถ้ามีผู้ใช้งาน/ลูกค้าออนไลน์ ให้แจ้งล่วงหน้าเสมอ